มีเพื่อนรุ่นน้อง(ผู้หญิง)คนหนึ่งทำงานด้านบัญชี และงานของเธอก็ใช้คอมพิวเตอร์มานานประมาณ 7 ปีเมื่อหลายเดือนก่อนเธอเกิดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้ออย่างมากแต่ก็ไม่เอะใจเพราะคิดว่าคงนั่งทงานอยู่หน้าคอมมากเกินไปเธอก็ไปนวด(แผนโบราณค่ะ) เพื่อให้เส้นสายมันคลายความตึงเครียด
นวดทีก็สบายทีผ่านไป 3 เดือน อาการปวดเมื่อยก็ยังเป็นๆหายๆและปวดเมื่อยมากขึ้นชาตามปลายนิ้ว และแขนย่างเข้าเดือนที่ 4 ปรากฏว่าเริ่มชามากขึ้น นานขึ้นและแล้วคืนวันหนึ่งขณะที่กำลังลุกขึ้นจากเตียงปรากฏว่าทรงตัวไม่ได้ มันอ่อนปวกเปียกไปหมด ปวดหัวอยากอาเจียนอ่านอะไรกว่าจะสะกดตัวหนังสือได้ก็นาน บวกเลขก็ช้าลงจึงกลับไปพบหมออีกคุณหมอสงสัยจึงซักประวัติชีวิตประจำวันอย่างละเอียดแล้วขอทำสแกน MRI ( ไม่แน่ใจว่าจำถูกหรือเปล่า)พบว่าปลายประสาทอักเสบอย่างรุนแรงเลือดไม่ไปเลี้ยงสมอง , น้ำในไขสันหลัง ข้อที่ 4 และ 5 ไม่มีคุณหมอให้ยามาทานผ่านไป 2 อาทิตย์ Bu
Fo
Mi
Oa
Tu
อาการชาหายไปแต่ยังปวดเมื่อยกล้ามเนื้ออยู่มาก จึงไปพบหมอกระดูที่ รพ.คุณหมอกระดูก ตรวจและซักประวัติก็บอกว่าไม่ต้องทำอะไรนอกจากออกกำลังกายด้วยการเดินวันละครึ่งชั่วโมงเป็นอย่างน้อยเพราะมันอักเสบอย่างรุนแรงไปแล้วคงไม่กลับมาดีดังเดิมแน่ถ้ามาช้า มันจะชาไปทั้งแขนขา ปัสสาวะไม่ได้เลยทีเดียวสาเหตุมีเยอะแยะ เช่น ทำงานหนัก เครียดสาวออฟฟิศเป็นกันมากแต่ไม่ใช่จากการเครียดแต่เป็นเพราะนั่งทำงานในท่าทีไม่ถูกต้องเป็นเวลานานๆในแต่ละวันเพื่อน ๆ พี่ ๆ ระวังนะคะ..แต่ที่แน่ ๆ เป็นเพราะเครียด บวกกับการนั่งหน้า Computer นาน ๆไม่ได้พักค่ะ...จึงเกิดอาการเกร็งที่เริ่มมาจากคอ..ลงไปที่ไหล่...ลงไปที่กระดูกสันหลัง..และจะปวดเอว...ขอให้ทุกท่านพยายามลุกขึ้นจากเก้าอี้..และพยายามอย่าเครียดกับงานที่ทำอยู่นะคะ..มันไม่ดีต่อสุขภาพค่ะ...มีคนบอกว่าการทำงาน อย่าให้งานกินเรา มากกว่าเงินเดือนที่เราเอาไว้กินนะคะ..เป็นห่วงทุกคนค่ะ...
มหันตภัยกล่องโฟม
กล่องโฟมที่ร้านค้าเอามาใช้เค้าจะแกะจากถุงพลาสติกใหญ่ (กล่องโฟมจะเรียงซ้อนกันเป็นแถวๆ) แล้วหยิบใช้ใส่อาหารขายไม่มีการเช็ดล้างก่อน
เคยลองเอามือลูบดูกล่องโฟมใหม่ที่เพิ่งแกะจากถุงจะมีฝุ่นโฟมติดอยู่คิดว่าน่าจะมาจากการตัดโฟมจากโรงงาน
หลายคนคงจะรู้จัก โรคด่างขาว บางคนเรียกโรคสะเก็ดขาว มันก็โรคมะเร็งผิวหนังดีๆ นี่เอง เรื่องมันมีอยู่ว่า ผมเจอเพื่อนรุ่นพี่ที่ไม่ได้พบกันมานานหลายปี (เมื่อก่อนดื่ม เที่ยวด้วยกันเป็นประจำ) ก็เลยลงไปสนทนาปราศรัยในฐานะเพื่อนรุ่นพี่ที่เคารพรักและไม่ได้พบปะกันมานาน สอบถามสารทุกข์สุขดิบกันตามประสา
พี่คนนี้ลักษณะแกคล้ายๆ อี๊ด วงฟลาย แต่หน้าตาดีกว่า ลักษณะแบบนี้คงนึกออกนะว่าเป็นยังไง แต่พอคุย จ้องหน้ากันมากๆ แกก็อายๆ อยู่บ้าง เพราะไม่เจอนานหลายปี
แต่ตอนนี้แกเป็นโรคด่างขาว ขึ้นทั้งปาก ทั้งศีรษะ กระทั่งมือ เต็มไปหมด
แกเล่าให้ฟังว่า เวลารับประทานอาหารทุกมื้อ ลูกน้องจะเป็นผู้ไปซื้ออาหารมาให้
คือพี่แกเป็นคนรับประทานอะไรง่ายๆ อาหารทุกอย่างจะใส่กล่องโฟมมาตลอด
แกบอกรับประทานอาหารที่ใส่กล่องโฟมแบบนี้ทุกมื้อเป็นเวลาประมาณ 2 ปี
เท่านั้นแหละ โรคด่างขาวมันอาละวาด ลุกลามเต็มตัว และรวดเร็วมาก ทุกวันนี้ต้องไปโรงพยาบาลศิริราช
แพทย์จะให้ยามาทาหลอดหนึ่งราคา 1,800.- บาท รักษามา 6 เดือนแล้ว ตอนนี้ดีขึ้นมาก
ตั้งแต่นั้นมา แกบอกว่า เวลาลูกน้องไปซื้ออาหาร ห้ามใส่กล่องโฟมโดยเด็ดขาด ให้ใส่ถุงพลาสติคเพียงอย่างเดียว
ซึ่งแพทย์บอกว่า ถุงพลาสติคยังไม่ค่อยอันตรายเท่าไร เพราะกล่องโฟมเวลาโดนอาหารร้อนๆ จะมีสารชนิดหนึ่งละลายออกมา
อยู่ในอาหารในกล่อง พอเรารับประทานเข้าไปมากๆ ก็จะเป็นผลเสียต่อร่างกาย
No comments:
Post a Comment